การถามและบอกทางเป็นภาษาอังกฤษ Asking and Giving Directions in English

0

ปัจจุบัน ประเทศของเรามีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี ดังนั้น การพูดคุยสื่อสารกับชาวต่างชาตินั้นจึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญอีกหนึ่งเรื่อง และถ้าหากเราได้เจอะเจอพบปะกับพวกเขา เราจึงจะต้องทำตัวให้เป็นเจ้าบ้านที่ดีให้ได้ อย่างเช่น ในเรื่องของการถามทาง ถามถึงสถานที่ต่าง ๆ เพื่อที่จะไปเยี่ยมชมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวหากเราสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ในจุดนี้ ก็ยิ่งจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มรายได้เข้าประเทศมากขึ้นเช่นกัน เพราะฉนั้น ในทุกวันนี้เราจึงต้องเรียนรู้คำศัพท์ สำนวน ประโยคง่าย ๆเบื้องต้นเพื่อที่จะนำไปตอบคำถามเหล่านี้ และต่อไปนี้จะเป็นการยกตัวอย่างคำศัพท์สำนวน ที่ชาวต่างชาติใช้ถามพร้อมกับการตอบโต้กลับเพื่อสื่อสารกันในเบื้องต้น

การถามทาง (Asking for directions)

  • Excuse me, could you show me the way to Train station? (ขอโทษนะคะ คุณจะกรุณาบอกทางไปสถาณีรถไฟให้ฉันได้ไหมคะ)
  • Excuse me, where is the Hospital? (ขอโทษนะคะ โรงพยาบาลไปทางไหนคะ)
  • Do you know where Yin Dee Hotel is? (คุณทราบไหมคะว่าโรงแรมยินดีอยู่ที่ไหน)
  • Do you know where the toilet is? (คุณรู้ไหมคะว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน)
  • Do you know the way to the Airport? (คุณรู้ทางไปสนามบินไหมคะ)
  • Excuse me, could you show me how to get to this address? (ขอโทษนะคะ คุณจะกรุณาบอกทางไปยังที่อยู่นี้แก่ฉันได้ไหมคะ)
  • Excuse me, how do I get to the Big Bang Shopping Center? (ขอโทษนะคะ ฉันจะไปศูนย์การค้าบิ๊กแบงยังไงคะ)
  • Excuse me, where is the nearest public telephone? (ขอโทษนะคะ โทรศัพท์สาธารณะที่ใกล้ที่สุดอยู่ไหนคะ)
  • How can I get to Chiang khan? (ฉันจะไปเชียงคานได้อย่างไรคะ)

คำตอบบอกทิศทาง-สถานที่ (Reply for directions)

  • Turn left. (เลี้ยวซ้าย)
  • Turn right. (เลี้ยวขวา)
  • Turn left at the next corner. (เลี้ยวซ้ายที่หัวมุมข้างหน้า)
  • Go straight ahead. (ตรงไปเลย)
  • It’s to your right (left). (อยู่ทางขวา (ซ้าย) มือของคุณ)
  • It’s across the street. (อยู่ตรงข้ามถนน)
  • Turn right at the intersection. (เลี้ยวขวาที่สี่แยก)
  • It’s behind that building. (อยู่หลังตึกนั้น)
  • It’s in front of that big building. (อยู่หน้าตึกใหญ่นั่น)
  • It’s near the bridge. (อยู่ใกล้สะพาน)
  • It’s close to the bus terminal. (อยู่ใกล้กับสถานีขนส่ง)
  • It’s very far from here. (อยู่ไกลจากที่นี่มาก)
  • It’s not far from here. (ไม่ไกลจากนี่)
  • It’s to the right of the railway station. (อยู่ทางขวาของสถานีรถไฟ)
  • It’s over the bridge. (อยู่ข้ามสะพานไป)
  • You will see the building on your right. (คุณจะเห็นตึกอยู่ทางขวามือของคุณ)
  • Keep going until you get to a small bridge. (เดินต่อไปเรื่อย ๆจนถึงสะพานเล็ก ๆ)
  • It’s about 200 meters from here. (อยู่ห่างจากนี่ 200 เมตร)
  • It’s on the other side of the park. (อยู่อีกด้านหนึ่งของสวน)

ตัวอย่างบทสนทนา

Sample 1: (ตัวอย่างที่1)

A: Excuse me. Could you give me directions? (ขอโทษค่ะช่วยบอกทางฉันหน่อยได้ไหมคะ)

B:  Where are you going? (คุณกำลังจะไปที่ไหนครับ)

A:  I’m looking for the Yim Wan Restaurant. (ฉันกำลังมองหาร้านอาหารยิ้มหวานอยู่ค่ะ)

B: Go straight to the next intersection and turn right. (ตรงไปเรื่อย ๆจนถึงสี่แยกหน้า แล้วเลี้ยวขวาครับ)

A: Thank you very much. (ขอบคุณมากนะคะ)

Sample 2 : (ตัวอย่างที่2)

A: Can you tell me where the Airport is?  (บอกฉันหน่อยได้ไหมว่าสนามบินไปทางไหน)

B: Yes, go straight ahead until you reach the intersection. Don’t turn. Go on straight ahead. You’ll come to another intersection. Then turn right. You’ll see the Airport in front of you. (ได้ค่ะ เดินตรงไปจนกว่าจะถึงสี่แยก ไม่ต้องเลี้ยว เดินตรงไปข้างหน้าอีก คุณจะมาถึงอีกสี่แยกหนึ่ง แล้วเลี้ยวขวา คุณจะเห็นสนามบินอยู่ตรงหน้าคุณเลย)

A: Thank you very much. (ขอบคุณมากค่ะ)

B: You are welcome. (ยินดีค่ะ)

Sample 3 : (ตัวอย่างที่3)

A: Excuse me, is this the way to Loei Rajabhat University? (ขอโทษนะคะ ทางนี้ไปมหาวิทยาลัย-

ราชภัฏเลยใช่ไหมคะ)

B: No, not this one. Do you see the main road over there? (ไม่ใช่ทางนี้ค่ะ คุณเห็นถนนใหญ่ที่นั่นไหมคะ)

A: Yes, sir.  (เห็นค่ะ)

B: Go to that road, turn right, go straight on until you will see the building on your right. That’s right Loei Rajabhat University. (ไปตามถนนสายนั้น เลี้ยวขวา ตรงไปจนกระทั่งคุณจะเห็นตึกอยู่ทางขวามือของคุณ นั่นล่ะคือมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย)

A: Thank you. (ขอบคุณค่ะ)

B: No problem. (ไม่เป็นไรค่ะ)